Category Archives: แฟชั่น

ชุดเดรสสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงนี้

การซื้อชุดสตรีในฤดูกาลนี้อาจกลายเป็นเรื่องล้นหลาม ไม่ใช่เพราะขาดทางเลือกแต่มีคอลเลกชั่นเสื้อผ้าและชุดเดรสลำลองสำหรับสตรีที่มีให้เลือกมากมายอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่เมื่อรู้ว่าสัญชาตญาณของผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการแต่งตัว เธอสามารถปรับตัวได้อย่างง่ายดายเพื่อใช้ประโยชน์จากฤดูกาลให้ได้มากที่สุดในแง่ของการแต่งตัว และนั่นหมายถึงการพร้อมที่จะยกระดับสไตล์ของเธอให้สูงขึ้น

เริ่มต้นด้วยจานสีของฤดูใบไม้ร่วงนี้ คุณสามารถเริ่มต้นสร้างตู้เสื้อผ้าและชุดเดรสของคุณโดยเลือกจากชิ้นส่วนสีเทา สีขาว และสีดำ จากนั้นเพิ่มอีกหนึ่งหรือสองชิ้นในสีคอรัล สีเหลืองและสีม่วง โปรดทราบว่าชุดสตรีสีสันสดใสควรรอฤดูร้อนหน้า ให้ใช้เพียงคำใบ้ของเฉดสีที่คุณชื่นชอบแทน หันไปหาคู่มือเครื่องแต่งกายสุดเก๋อย่างคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเริ่มต้นชุดที่ยอดเยี่ยมสำหรับฤดูใบไม้ร่วง

คุณอาจเลือกชุดเดรสฟรุ้งฟริ้งที่เข้ากับทุกสถานที่และมีตัวเลือกมากมาย เช่น เดรสผ้ากอซสีอ่อนกับนัวเนียในแนวทแยง มันสามารถแปลงโฉมเป็นลุคที่แตกต่างกันมากมายที่ฤดูกาลอาจสั้นเกินไปที่จะเพลิดเพลินไปกับทุกชุดที่คุณนึกออก

ชุดสำหรับฤดูใบไม้ร่วงพร้อมสำหรับการฝังรากลึก ข้อดีของเสื้อแจ็คเก็ต สเวตเตอร์ คาร์ดิแกน และเสื้อคลุมที่มีอยู่

ไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการสร้างสรรค์สไตล์และเป็นเจ้าของมัน ทุกอย่างราบรื่นและสวยงาม อันที่จริงเดรสสั้นสามารถใส่ทับเลกกิ้งที่ดูเรียบร้อยและมันจะเปลี่ยนลุคในทันที รองเท้าส้นสูงที่ดีก็เพื่อสอพลอ ruffles และ frills ของชุดที่มีอยู่

ขอบเสื้อผู้หญิงตอนหน้าอกมีความขี้เล่น เกือบจะเหมือนกับเสื้อผ้าและชุดเดรสฮิตในฤดูร้อน แต่คราวนี้ได้หันมาเน้นที่ความเซ็กซี่แบบบอบบาง แน่นอนว่ายังมีตัวเลือกการพิมพ์ด้วย และคุณจะไม่เชื่อว่าอันเดอร์โทนที่เป็นผู้หญิงเป็นพิเศษ ฟินตลอด!

มีชุดสำหรับผู้หญิงทุกคนในฤดูใบไม้ร่วงนี้ เมื่อพูดถึงชายกระโปรง สั้น, ยาว, ระหว่าง – คุณสามารถมีได้และจะพอดีกับฤดูกาล ผ้าม่าน ภาพพิมพ์โมเสก และรายละเอียดการถักโครเชต์เป็นรายละเอียดบางอย่างที่พลาดไม่ได้สำหรับชุดสตรีในฤดูใบไม้ร่วงนี้  นอกจากการแต่งตัวแบบเลเยอร์แล้ว ผู้หญิงยังจะชอบเครื่องประดับในฤดูกาลนี้อีกด้วย เนื่องจากชิ้นส่วนส่วนใหญ่จะมีสีต่ำ จึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการลงทุนซื้อเครื่องประดับเช่นกัน กระเป๋า, รองเท้า, สร้อยคอ, สร้อยข้อมือ-มีความเป็นไปได้ไม่รู้จบสำหรับสไตล์

ชุดสตรีไม่เคยมีความน่าสนใจเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นจึงไม่ควรมีผู้หญิงคนไหนที่จะบ่นว่า “เธอไม่มีอะไรจะใส่” ไปดื่มชายามบ่ายหรือไปงานเลี้ยงอาหารค่ำ ชุดเดรสที่คุณใส่ไปทำงานสามารถยืดออกได้จนถึงช่วงดึกด้วยจินตนาการเล็กน้อยและการแต่งหน้า

ไม่ว่าคุณจะชอบความเรียบง่าย ยอดเยี่ยม งดงาม หรือยอดเยี่ยม มีตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับฤดูใบไม้ร่วงนี้ สไตล์ผสมผสานออกมาแล้วและน่าทึ่งมาก!

การดูแลชุดเดรสผู้หญิงหรือเสื้อผ้าและชุดเดรสลำลองชุดใหม่อย่างถูกวิธีจะทำให้คุณเห็นตลอดฤดูกาลและขยายไปสู่ชุดถัดไป อ่านฉลากอย่างละเอียดและปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับผ้าหรือวัสดุที่คุณเลือก ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะอินเทรนด์ ตราบใดที่คุณมั่นใจในเรื่องนี้ และด้วยคอลเลกชั่นเสื้อผ้าและชุดเดรสสตรีสุดชิคประจำฤดูกาล คุณก็ทำได้ง่ายมาก

สนใจเพิ่มเติม https://www.variousstyle.com/

แฟชั่นศิลปะส่วนผสมบนเสื้อผ้าที่ลงตัว

แฟชั่นน

กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสุดๆ สำหรับเหล่าดีไซน์เนอร์ชั้นแนวหน้า ที่พร้อมใจกันนำความ Art ของงานศิลปะมาแสดงให้คนทั่วโลกได้เห็นผ่านลวดลายที่ปรากฏบนเสื้อผ้าของคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ ทำให้รันเวย์แฟชั่นชั้นนำต่างก็มีกลิ่นอายและบรรยากาศแห่งศิลปะ และความอาร์ท ตลบอบอวลเลยทีเดียว

เริ่มตั้งแต่แบรนด์ระดับ Top อย่าง Chanel คอลเลคชั่น Spring / Summer 2014 ที่เป็นการประยุกต์เอางานศิลปะ มาใส่ในเสื้อผ้าแฟชั่นได้ชาญฉลาด ทั้งลายพิมพ์ การเพ้นท์สี ที่ทำให้คิดถึงลีลาการสะบัดพู่กันของจิตรกรเอก กลายมาเป็นสีสันให้กับฤดูกาลได้อย่างเหมาะเจาะพอดี ไม่เพียงเฉพาะกับเสื้อผ้าเท่านั้นแต่ลูกเล่นการแต่งหน้านางแบบก็ยังช่วยเพิ่มสีสันให้กับลุคโดยรวมเช่นเดียวกัน อีกทั้งเวทีแฟชั่นยังให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเข้ากันกับธีมหลักในครั้งนี้จริงๆ เช่นเดียวกันกับ Prada ที่ได้นำเอาเสน่ห์ของศิลปะบนท้องถนนงานกราฟฟิตี้ที่พบเห็นได้ในเมืองใหญ่ และผลงานศิลปะของเหล่าศิลปินทั่วทุกมุมโลกมาหลอมรวมกันไว้ในงานแฟชั่นที่เปรียบเสมือน Art Gallery รวบรวมผลงานของศิลปินทั้งหลาย เป็นการสร้างสีสันที่น่าดูในงานแฟชั่นโชว์ได้อย่างน่าชื่นชมด้วยการออกแบบที่ดูแหวกแนวที่เอารูปภาพใบหน้าของหญิงสาวในภาพวาดมาเป็นลวดลายบนเสื้อผ้าที่มีสีสันฉูดฉาดแต่ก็ดูน่าสนใจและสวมใส่ได้จริง ถ้ารู้จักการมิกซ์ แอนด์ แมทช์ ให้ถูกวิธี ทั้งดีเทลของเสื้อผ้า ที่นอกจากจะเน้นไปที่ลวดลายพิมพ์แล้วยังให้ความสำคัญกับงานปักที่ประณีตงดงาม สมกับเป็นผลงานชิ้นเอกของแบรนด์ชั้นนำของโลก

ทางด้าน แบรนด์ Céline ก็ขอยืมเสน่ห์อันน่าหลงใหลของศิลปะ การตวัดพู่กันของศิลปินมาใช้ในงานออกแบบในคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน 2014 เช่นกัน จากการผสมผสานของสีที่ดูฉูดฉาดสะดุดตารวมทั้งการ Mix & Match เสื้อผ้าท่อนบน และท่อนล่าง ด้วยแพทเทิร์นที่แตกต่าง ทำให้เหล่าแฟชั่นนิสต้า ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงและความเชื่อในการแต่งกายครั้งใหญ่สีสันที่เป็นจุดเด่นของคอลเลคชั่นอยู่ที่ความคิดอิสระที่มาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์อันไม่รู้จบ ทั้งบนผืนผ้าใบ และเสื้อผ้าที่สวมใส่

แฟชั่นสุดฮิตปี 2016 สาวสวยทันสมัย อยากแต่งแซ่บเกินใคร ห้ามพลาด!!

เแฟชั่น

กระแสการ แต่งตัวตามเทรนด์แฟชั่น นับวันยิ่งครองบัลลังก์ฮิตมาโดยตลอด และในปีนี้ เสื้อผ้าแฟชั่นปี 2016

ที่ขอยกนิ้วการันตีว่า สาวๆ ใส่แล้วไม่มีเอ้าท์!! แถมยังฮอตฮิตติดเทรนด์ จนใครๆ ก็ต้องรีบหามาติดตู้เสื้อผ้าไว้ไปตามๆ กัน

โดย แฟชั่น ในปีนี้นั้น ก็จะเน้นกลิ่นอายย้อนยุคซะส่วนใหญ่ ใครที่พอจะมีเสื้อผ้ารุ่นคุณย่า คุณยายในสมัยสาวๆ อยู่บ้าง

ก็สามารถหยิบขึ้นมาสวมใส่ให้กิ๊บเก๋มีสไตล์ ตามแบบฉบับสาวมั่นกันได้เลย ว่าแต่จะมีเทรนด์ไหนบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ

 

เสื้อผ้าแฟชั่น แบบสายคล้องคอ

แฟชั่นคล้องคอ เสื้อผ้าสไตล์สาวไฮโซที่ในปี 2016 นี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการไฮโซเท่านั้นนะคะ แต่ เสื้อผ้าแฟชั่น แบบสายคล้องคอ

กำลังเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ ทั่วไปเป็นอย่างมาก ซึ่งในปีนี้ก็มีแนวโน้มว่า จะได้รับความนิยมอย่างตลอดต่อเนื่องเลยทีเดียว

 

เสื้อผ้าแฟชั่นยุค 70s

เมื่อพูดถึง เสื้อผ้าแฟชั่นยุค 70s หนุ่มสาววัยรุ่นสมัยนี้ อาจจะไม่ค่อยรู้จักมากนัก และอาจมองว่าเป็นเสื้อผ้าที่เชยสุดๆ

แต่รู้ไหมคะว่าในปี 2016 นี้ แฟชั่นยุค 70s ที่คุณมองว่าเชยนั้น กำลังจะกลับมาฮอตฮิตอีกครั้ง และมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมไม่นอยเลยทีเดียว

โดยเสื้อผ้าแฟชั่นในยุคนั้น จะเน้นกางเกงขายาวแบบขาบาน หรือที่เรียกกันว่า “ขาม้า” ในส่วนของเสื้อก็จะทำจากผ้ากำมะหยี่เป็นส่วนใหญ่

และยังมีไอเท็มประดับ ที่มีลักษณะเป็นริ้วๆ ด้วย เกริ่นมาขนาดนี้ สาวๆ พอจะนึกภาพออกกันบ้างแล้วใช่ไหมล่ะคะ?

 

เสื้อผ้าแฟชั่น แบบเว้าแขน โชว์ไหล่

เสื้อผ้าแฟชั่นโชว์ไหล่ แฟชั่นที่กำลังมาแรงแบบอินเทรนด์สุดๆ เรียกว่า ได้รับความนิยมตั้งแต่ปีที่แล้วจนมาถึงปี 2016 กันเลยทีเดียว

โดยเสื้อผ้าสไตล์นี้จะทำให้คุณสาวๆ แล้วดูเซ็กซี่แบบใสๆ น่ารัก ไม่ดูโป๊จนเกินไป แถมยังเพิ่มเสน่ห์ให้ดูโดดเด่น น่าสนใจได้เป็นอย่างมากอีกด้วย

 

เสื้อผ้าแฟชั่น แบบผ้าตาข่าย

ในปีที่ผ่านมา สาวๆ ต่างก็ฮอตฮิตกันเป็นอย่างมาก กับเสื้อผ้าแฟชั่นเนื้อบาง ที่เปิดตรงนั้นนิด เปิดตรงนี้หน่อย

โชว์สัดส่วนแบบพอวับๆ แวมๆ ให้หนุ่มๆ ได้ใจสลายกันเล่น ซึ่งสำหรับปีนี้ก็ไม่น้อยหน้ากันเลยเช่นกัน

กับเสื้อผ้าแฟชั่น ผ้าตาข่าย ที่จะทำให้คุณดูเซ็กซี่มีเสน่ห์สะกดตาสุดๆ แต่เพื่อไม่ให้ดูโป๊หรือเปิดเผยมากเกินไป

ก็อาจจะใส่เสื้อกล้าม หรือเสื้อเกาะอกซับในสักตัว แล้วตามด้วยเสื้อตาข่ายที่สวมทับภายนอก แค่นี้ก็เซ็กซี่เย้ายวนใจสุดๆ แล้วค่ะ

 

กระโปรงพลีทแฟชั่น แบบจีบพับ

สุดฮอตอีกครั้ง!! เอาใจสาวๆ ที่รักการใส่กระโปรง ด้วยกระโปรงพลีทแฟชั่นแบบจีบพับ ที่จะทำให้สาวๆ ดูสวยน่ารัก และมีเสน่ห์มากขึ้น

และด้วยความพริ้วสวยของกระโปรงพลีท ก็จะทำให้คุณได้ลุคหวาน ใสและดูดีขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว

รู้แบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสาววัยทำงาน สาววัยรุ่นหรือนักศึกษา ก็อย่าลืมรีบหยิบเอากระโปรงพลีทขึ้นมาสวมใส่ แทนกระโปรงแบบเรียบ หรือกระโปรงทรงเอแบบธรรมดากันด้วยนะคะ

 

เสื้อผ้าแฟชั่นยุค 90

แฟชั่นยุค 70s ที่ว่าเก่าแล้ว แต่แฟชั่นยุค 90 นั้นกลับเก่ายิ่งกว่า หลายคนคงจะคาดไม่ถึงกันเลยใช่ไหมคะว่า

แฟชั่นยุคเก่าๆ จะกลับมาอินเทรนด์ได้มากถึงเพียงนี้ซึ่งแฟชั่นยุค 90 ที่ได้รับความนิยมในปี 2016 ก็คือ แฟชั่นเฟี้ยวฟ้าว สวยเท่ห์ โดนใจวัยเก๋านั่นเอง

หลายคนอาจจะยังงงๆ ว่าแฟชั่นยุคนี้มีอะไรบ้าง จริงๆ แล้วก็คือ เสื้อครอปเอวลอยที่สาววัยรุ่นหน้าท้องแบนราบชอบใส่

นอกจากนี้ ยังมีแฟชั่นเดนิม ลายสก๊อต และกางเกงบอยเฟรนด์ ไงล่ะ! รู้แล้วก็ร้องอ๋อ…กันเลยทีเดียว

 

เสื้อผ้าแฟชั่นลายขวาง

แฟชั่นลายขวาง แฟชั่นที่ไม่เคยตายจากบัลลังก์ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย เสื้อผ้าแฟชั่นลายขวางนั้น ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่ทั้งนี้ ลายขวางจะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีรูปร่างอ้วนท้วมเท่าไรนัก เพราะจะยิ่งทำให้รูปร่างดูใหญ่กว่าเดิม

แต่หากใครที่มีรูปร่างท้วมแล้วอยากใส่ลายขวาง ก็อาจเลือกใส่ชุดสีเข้มๆ เช่น สีดำ สีเทา ม่วง และสีน้ำเงินแทน หรือใส่ลายขวางแนวตั้งก็ได้เช่นกัน

แฟชั่น 2017

แฟชั่น 2017 1

 

 

เมื่อพูดถึงเรื่องของแฟชั่น หลายคนก็มักที่จะนึกถึงการแต่ตัวที่หวือหวา ทันสมัย เรามาทำความเข้าใจของแฟชั่นอย่างถูกต้องกันก่อนว่าคือแฟชั่นอะไรกันแน่

แฟชั่น คือ สิ่งที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้ ที่ทำให้เกิดรสนิยมร่วม เกิดการยอมรับในสังคมเล็กใหญ่ในเวลาสั้นๆ และคือสิ่งซึ่งเราหยิบจับมาต้องตอบโจทย์ และแสดงอะไรบางอย่าง อาจเป็นสถานะ หรือสิ่งที่คุณมีความรู้สึกว่ามันบรรเทา อาการขาดๆหายๆ แฟชั่นมิได้จำกัดเขตแต่เฉพาะ เครื่องแต่งกาย และของประดับ พฤติกรรมต่างๆ เช่น การใช้โทรศัพท์หรู การซื้อบ้านหลังใหญ่ หรือทานอาหารที่แพง

แฟชั่นคือ การได้รับการยอมรับในสังคม มีต้นแบบที่เข้มแข็ง มีสื่อที่จะสื่อสารออกไป มีการเลียนแบบ ทำตามเป็นกลุ่ม ไม่ว่าจากสังคมชั้นสูงสู่ล่าง หรือเกิดในสังคมชั้นเดียวกัน

แฟชั่น 2017

แฟชั่น จะเกิดเป็นจริงจังกันได้ ในสังคมที่เปิด มีการสื่อสารที่อำนวย เป็นช่องทางกระจาย ที่ทำให้เกิดการเลียนแบบ โดยในโลกแห่งการแสวงหานั้น ผู้บริโภคกลุ่มซึ่งมีอำนาจในการซื้อสูง มักเลือกใช้สินค้าและไลฟ์สไตล์เป็นต้นแบบ คนทั่วไปใช้พฤติกรรมต่างๆ ของชนอีกระดับ เติมเต็มสิ่งที่โหยหา อาจใช้เป็นเครื่องมือเลื่อนระดับชั้นทางสังคม โดยมีความเชื่อว่าตัวเอง เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ซึ่งเรามักเห็น ความนิยมการใช้สินค้าแบร์นดเนม ของใช้ไฮเทค ที่อยากจะบอกสถานะตนว่าทันสมัยและอื่นๆ ซึ่งในปัจจุบัน เห็นได้แม้พวกผู้ใหญ่ที่ มักทำตัวเป็นพวก Adolescence ก็มีเยอะ แม้จะขีดเขียนมาให้เห็น สรรพคุณที่ยืดยาว ของคำๆนี้ ก็อาจบรรยายความสามารถทางยา ของเจ้าคำว่าแฟชั่น ได้ไม่ครบถ้วน

แฟชั่นและการออกแบบสิ่งทอต่างประเทศ

แฟชั่น

การเรียนแฟชั่น คือ การศึกษาเกี่ยวกับสไตล์และเทรนด์ของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายนอกจากจะเป็นเครื่องนุ่งห่มที่ช่วยปกป้องมนุษย์จากสภาพอากาศแล้ว เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงอิทธิพลของสภาพแวดล้อม และวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นอีกด้วย ทุกวันนี้การเปลี่ยนแปลงในแวดวงแฟชั่นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองอย่างลอนดอน ปารีส มิลาน และนิวยอร์ก ที่ได้รับการขนานนามว่า เมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก

อุตสาหกรรมแฟชั่นในปัจจุบัน คือการผลิตสินค้าที่ทันสมัย ตอบรับรสนิยมของคนส่วนใหญ่ในสังคม ลดต้นทุนการผลิตด้วยการผลิตครั้งละมากๆ และขายในราคามาตรฐาน ซึ่งการผลิตสินค้าในลักษณะดังกล่าว เป็นงานที่บัณฑิตส่วนใหญ่นิยมทำกันเมื่อจบการศึกษา

อุตสาหกรรมแฟชั่น เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากในประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ.2011 มีเงินหมุนเวียนในอุตสาหกรรมนี้ถึง 21 ล้านปอนด์ต่อปี (ประมาณ 1 พันล้านบาท) บัณฑิตที่จบด้านแฟชั่นในระดับปริญญา จึงมีทางเลือกในการประกอบอาชีพที่หลากหลาย และเป็นที่ต้องการตัวของตลาดแรงงานเป็นอย่างมาก

ศิษย์เก่าส่วนใหญ่มักออกแบบและผลิตเสื้อผ้าขายภายใต้แบรนด์ของตัวเอง หรือทำงานเป็นนักออกแบบให้กับแบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ รายได้เริ่มต้นของผู้จบสาขาวิชาแฟชั่นในประเทศอังกฤษอยู่ที่ 14,000-22,000 ปอนด์ต่อปี (ประมาณ 665,000-1,045,000 บาท)

นอกจากนี้ยังมีงานเกี่ยวกับแฟชั่นอีกมากมายที่บัณฑิตสามารถเลือกทำได้ โดยอาศัยความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดีไซน์และความสนใจในเรื่องเทรนด์ อย่างเช่น เป็นกองบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่น เป็นบล็อกเกอร์กูรูด้านแฟชั่น หรือทำงานด้านการตลาดให้กับสินค้าแฟชั่น เป็นต้น

หากไม่ต้องการทำงานประจำ บัณฑิตยังสามารถทำงานเป็นฟรีแลนซ์ ในบทบาทสไตลิสต์ นักเขียน และนักวาดภาพประกอบได้ หรือจะนำความรู้ทางด้านแฟชั่น ไปประยุกต์ใช้กับงานด้านอีคอมเมิร์ซ การขาย หรือการประชาสัมพันธ์ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

คุณสมบัติของคนที่อยากเป็นนักออกแบบแฟชั่นสิ่งที่ต้องมี

fasion

 

อาชีพออกแบบแฟชั่นเป็นอาชีพที่หลายคนมีความใฝ่ฝันที่จะเป็น แต่ความฝันจะมีแค่ความมุ่งมั่นอย่างเดียวคงไม่พอ เราต้องรู้จักเตรียมความพร้อมให้ตัวเองในการเดินทางสู่เส้นทางสายแฟชั่นด้วย ยิ่งเราเริ่มใหม่ควรจะรีบวางแผนและเตรียมการเพื่อให้เราเดินทางได้อย่างถูกจุดให้ได้มากที่สุด และ 5 สิ่งสำหรับคนที่อยากเป็นนักออกแบบแฟชั่นต้องมี คือ

1. ความรู้พื้นฐานเรื่อง Pattern และการตัดเย็บ การจะเป็นนักออกแบบแฟชั่นเราต้องมีความเข้าใจในเรื่องของเสื้อผ้า แพทเทิร์นและการตัดเย็บ เคยเจอปัญหาไหม? อยากได้แบบนี้ค่ะแต่ไม่รู้ทำยังไง พอเอางานไปส่งช่างปุ๊ปช่างบอกทำไม่ได้ตรงนี้ กลายเป็นต้องมาสตั๊น ตอบคำถามช่างไม่ได้ ไม่เข้าใจ ไม่รู้วิธี สุดท้ายกลายเป็นเปลี่ยนแบบทำไม่ได้ตามที่คิดไว้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ไม่โอเคแน่ๆ เพราะนอกจากงานเพี้ยนแล้ว กลายเป็นว่าเราต้องมาทำงานสองสามรอบ คิดใหม่ เสียเวลาในการจัดสรรค์โปรเจค แถมตอบคำถามไม่ได้อีกและต่อไปก็จะทำ Design ตัดเย็บแบบนี้ไม่ได้เพราะไม่รู้จะทำยังไง

2. รู้วิธีหาไอเดีย จุดเริ่มต้นของทุกๆ อย่างเริ่มมาจากการคิดหาไอเดีย แรงบันดาลใจ  จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ คนที่รู้วิธีหาไอเดียจะเป็นคนที่ได้เปรียบเพราะสามารถสร้างแนวคิดออกมาได้อยู่เรื่อยๆ แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่ค่อยถนัด หรือไม่เคยทำอะไรเชิงที่ต้องใช้จินตนาการอาจจะรู้สึกว่าทำยังไงดี คิดไม่ออกเลย แต่ของแบบนี้ไม่ได้เป็นปัญหาค่ะ ให้เรามีบ้าง เราพอรู้ทิศทางเราพอมีและสิ่งที่ช่วยได้คือการรู้จักฝึกคิด ฝึกหาไอเดียบ่อยๆ

3. มีความรู้ทางด้าน Program ที่เกี่ยวข้อง ในหลายต่อหลายครั้งที่เราต้องใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในงานประเภทแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบต่างๆ รวมถึงการทำ Present เช่น พระเอกหลักๆ ของเราก็คือ Photoshop และ illustrator เป็นโปรแกรมที่เราควรมีความรู้ในการใช้งาน เพราะนอกจากใช้ในการวาดรูปทำ Graphic หรือ Present งานแล้ว โปรแกรมนี้ยังนำมาประยุกต์ใช้ในการทำ Textile , การเรียง Pattern และประยุกต์ในลักษณะอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย

4. ความตั้งใจเรียนรู้และการมีคุณธรรมจริยธรรม ในทุกรูปแบบการทำงาน คนที่ใส่ใจและมีการทุ่มเทจริงๆ จะได้รับความรู้เยอะ คนที่ตั้งเป้าหมายแน่วแน่การหาโอกาสฝึกงานกับบริษัทด้านแฟชั่นในประเภทงานที่ตัวเองอยากทำ และที่สำคัญคือสไตล์งานควรจะตรงกับที่คุณเป็น

5. ทักษะด้านการวาดรูป ( ไม่เป๊ะไม่เป็นไร แต่ต้องสื่อออกมาให้เข้าใจได้ )  อีกเรื่องสำคัญของคนจะเป็นนักออกแบบแฟชั่นคือ การสื่อสารออกมาเป็นภาพวาด เพราะการวาดรูปนี้จะมีผลกับงานแฟชั่นหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเสื้อผ้า การวาดรูปคนเพื่อนำเสนอ Design และ Collection ซึ่งอาจรวมไปถึงการออกแบบลายผ้า และการสื่อสานงานเมื่อต้องทำงานกับหลายๆ ฝ่ายในที่นี้คือไม่จำเป็นว่าฉันต้องวาดสวยอลังการ ซึ่งถามว่าจริงๆ แล้วถ้าทำได้จะดีไหม บอกเลย ”โคตรดี”

10 สิ่งบ่งบอกความเป็น “ฮิปสเตอร์” ในตัวคุณ

%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%8c%e0%b9%82%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%94

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่าฮิปสเตอร์อยู่บ่อยๆ ทั้งจากสื่อและโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่อาจไม่แน่ใจว่าฮิปสเตอร์คืออะไร ฮิปสเตอร์มีลักษณะยังไงไปดูกันเลยค่ะ

จะว่าไป ฮิปสเตอร์ก็คือเด็กแนวในอีกรูปแบบหนึ่งนั่นเอง แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นวัยรุ่นเสมอไป ส่วนมากวัยของฮิปสเตอร์จะอยู่ในช่วงมหาลัยไปจนถึงวัยทำงาน คือ 18-30+ ปี พวกเขาคือคนที่นิยมทุกสิ่งที่นอกกระแส ไม่ว่าจะแต่งกาย ดูหนัง ฟังเพลง กิจกรรม ไปจนถึงการกินอยู่เลยทีเดียว ฮิปสเตอร์จะยี้กับทุกสิ่งที่มีความเป็นแมสหรือป๊อบ และเพื่อจะให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เราจะยกตัวอย่างลักษณะของฮิปสเตอร์โดยทั่วไปมา 10 อย่าง ซึ่งถ้าใครมีลักษณะหรือพฤติกรรมเข้าข่ายลักษณะที่ยกมาเกินกว่าครึ่งแล้ว นั่นแหละ จัดว่าเป็น ฮิปสเตอร์อย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้วล่ะ

  1. ชอบถ่ายภาพแนวอาร์ตๆ เท่ๆ อย่างพร่ำเพรื่อ

กะโหลกกะลาบ้าบออะไรก็ถ่าย แล้วนำมาปรับสีด้วยแอพต่างๆ ตอนนี้ฮิปสเตอร์กว่า 80% นิยมปรับภาพให้มีโทนสีอุ่นๆ ซีดๆ โดยมีนิตยสารแนวไลฟ์สไตล์ชิคๆ คูลๆ อย่าง Kinfolk หรือ Cereal ของต่างประเทศเป็นพระคัมภีร์ต้นแบบ แม้ว่าโลเคชั่นจะเป็นเมืองไทยพวกเขาก็จะพยายามเซ็ตให้ดูคล้ายญี่ปุ่น อเมริกา หรือยุโรปที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฮิปสเตอร์มักจะมีทั้งกล้อง DSLR (ซึ่งบางคนก็พกไปงั้นแต่ไม่ได้ถ่ายอะไร แค่เอาไปวางไว้ให้ติดมาในเฟรมดูเท่ๆ เท่านั้นเอง) ยิ่งถ้าคนไหนที่ใช้กล้องฟิลม์ หรือมีกล้องฟิลม์แบบวินเทจอันเล็กๆ ด้วยแล้วล่ะก็ นั่นแหละฮิปสเตอร์ตัวพ่อตัวแม่แน่นอน

  1. ถ่ายภาพลงโซเชียลฯ

ถ่ายภาพแล้วมันยังไม่จัดว่าครบขั้นตอน ฮิปสเตอร์จะต้องโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ทั้ง IG, Twitter และ Facebook ส่วนคำบรรยายที่ใช้ประกอบภาพก็จะต้องเป็นวลีสั้นๆ ดูเพ้อๆ ลอยๆ เหงา และแอ๊บติสต์ไปด้วยในตัวภึงจะครบสูตร อ้อ! ที่ขาดไม่ได้เลยคือแฮชแท็ก ต้องใส่ให้เยอะๆ เข้าไว้ จะมีความหมายหรือไม่ไม่เป็นไร ใส่ไว้เยอะๆ ก่อน มันดูเก๋ดี ฮิปสเตอร์เขาชอบใช้กัน

  1. คลั่งไคล้ในข้าวของเครื่องใช้ที่มีความของอะนาล็อก

ของเหล่านี้ให้อารมณ์วินเทจย้อนยุค ไม่ว่าจะเป็นกล้องฟิลม์ กล้องโพลารอยด์ เครื่องเล่นแผ่นเสียง เชื่อหรือไม่ว่าฮิปสเตอร์หลายคนหันมาเล่นแม้กระทั่งเทปตาสเซ็ตหรือวิดิโอ จนทำให้สิ่งเหล่านี้มีราคาสูงขึ้นกลายเป็นของสะสมไปเลย

 

  1. หนังนอกกระแส-วงดนตรีแนวๆ

ไม่ว่าจะดูหนังหรือฟังเพลง หนังฮอลลีวู้ดนั้นจะไม่ค่อยถูกรสนิยมของพวกเขาเท่าไร ส่วนมากฮิปสเตอร์จะเลือกเสพเฉพาะหนังแนวๆ อาร์ตๆ เป็นหลัก ยิ่งหนังจากประเทศแปลกๆ เช่น อาร์เซอร์ไบจัน อุซเบกิสถาน หรือเอสโตเนีย ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักยิ่งรู้สึกเท่เป็นพิเศษ ดูเสร็จแล้วก็ต้องมารีวิวอย่างยืดยาวด้วยภาษาและแง่มุมลึกซึ้งลงในบล็อกหรือเฟซบุคซึ่งอ่านกันเอง อวยกันเองอยู่ในกลุ่มเล็กๆ ส่วนรสนิยมในการฟังเพลงของฮิปสเตอร์นั้นจะเน้นวงอินดี้ ไม่ว่าจะวงไทยหรือต่างประเทศ ยิ่งได้ฟังวงใหม่ๆ ก่อนใครยิ่งรู้สึกยืดเป็นพิเศษ เทศกาลดนตรีแนวๆ ที่เขาใหญ่ หรือพัทยา จึงเปรียบเสมือนงานเช็งเม้งที่พวกเขาจะต้องไปชุมนุมกันทุกปีเลยทีเดียว ส่วนถ้าฮิปสเตอร์จะฟังเพลงตลาดสุดๆ บ้างนั้น มักจะเป็นการแกล้ง ‘ฟังขำๆ’ มากกว่าชอบฟังด้วยความชื่นชมจริงๆ

  1. ร้านกาแฟเก๋ๆ ชิคๆ

ฮิปสเตอร์กับกาแฟเป็นสิ่งที่ขาดกันมิได้ แต่สำหรับฮิปสเตอร์แล้วจะซื้อกาแฟรถเข็นของอาแปะหรือร้านสะดวกซื้อนั้นมันไม่ใช่ ฮิปสเตอร์จะขวนขวายเสาะหาร้านกาแฟแต่งเก๋ๆ เล็กๆ ไม่ก็หรูหรามีระดับไปเลยเพื่อไปนั่งโพสต์ท่า เอ๊ย นั่งทำงาน แล้วถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียตามระเบียบ การถ่ายภาพแก้วกาแฟนั้นก็ต้องเลือกมุมเท่ๆ มีของประกอบฉากติดเข้ามาในเฟรม เช่นหนังสือที่ดูฉลาด แนวๆ สมุด ปากกา พวงกุญแจ หรือกระเป๋าที่บ่งบอกรสนิยมทันสมัยของพวกเขาด้วยเช่นกัน การดื่มกาแฟของพวกเขาจึงเปรียบเสมือนพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะต้องประดิดประดอยสุดฤทธิ์ แต่สำหรับคนทั่วไปแล้วชวนให้ตั้งคำถามว่า “จะเยอะไปไหน ทำไมต้องทำให้ยุ่งยากขนาดนั้น ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ” แต่หากวันไหนที่ฮิปสเตอร์ดื่มกาแฟร้านสะดวกซื้อพวกเขาจะไม่มีวันโพสต์ให้คุณเห็นหรอก ตลกดี

  1. จักรยาน

คนใช้จักรยานในเมืองไทยแบ่งได้เป็นสามกลุ่มคือ พวกปั่นเพื่อการเดินทาง พวกปั่นออกกำลังอย่างจริงจัง และพวกปั่นแบบชิคๆ คูลๆ เฉพาะวันหยุดหรือตอนกลางคืน ซึ่งเราจะพบฮิปสเตอร์ได้ในกลุ่มนักปั่นประเภทหลังเยอะมาก พวกนี้จะให้ความสำคัญกับรถ (บางคันราคาเป็นแสน ล้อแพงกว่าล้อแม็กรถยนต์ยังมีเลย) ออปชั่นแต่งรถ  และชุดที่ใช้ใส่ปั่นมาก อย่าแปลกใจถ้าได้เห็นคนใส่เสื้อนอก หมวก กับกางเกงขาสั้น ปั่นจักรยาน เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว formต้องมาก่อน function เสมอ แม้จะดูกระแดะเพียงไรก้ไม่พรั่น การปั่นก็จะเน้นรวมตัวกันเป็นกลุ่มไปตามเส้นทางเก๋ๆ ที่นิยมมากเป็นพิเศษคือการปั่นไปทานอาหารตามร้านเท่ๆ หรือปั่นไปหาของกินตอนกลางคืนแถวเยาวราช สงสัยแถวบ้านคงไม่มีอะไรขายตอนดึกๆ แน่ ที่สำคัญ ต้องถ่ายภาพอัพลงเฟสด้วย ถ้าโลกนี้ไม่มีโซเขียมีเดีย เผลอๆ พวกนี้อาจไม่สนใจปั่นจักรยานซะด้วยซ้ำ

  1. โซเชียลมีเดียคือชีวิตจิตใจของพวกเขา

ฮิปสเตอร์จะไปไหนก็ต้องเช็คอิน และถ่ายภาพต่างๆ อวดตลอด บางคนที่มีความสามารถในการเล่าเรื่องด้วยภาพและตัวอักษรได้น่าสนใจ มีผู้ติดตามหลักพันคน ก็ยกระดับขึ้นมาเป็นเน็ตไอดอลไปเลยก็มี  แค่จะให้ทะลุไปหลักหลายหมื่นแบบน้องมันแกว น้องมุกกี้ นั้นคงยากหน่อย เพราะฮิปสเตอร์ยังมีไม่มากพอขนาดทาสนมอย่างเราๆ ท่านๆ หรอก

  1. ไอโฟน ไอแพด แม็คบุค

แม้ฮิปสเตอร์จะชอบสโลว์ไลฟ์ แต่สำหรับเรื่องการสื่อสารแล้วกลับไม่ยักกะใช้นกพิราบหรือการเขียนจดหมาย พวกเขาหายใจเข้าออกเป็นการเสพข้อมูลในด้านเทรนด์และกระแสสังคมด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ และยิ่งสินค้าตระกูลแอปเปิลมีหน้าตาสวยทันสมัยจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ฮิปสเตอร์จะเลือกใช้ยี่ห้อนี้เป็นหลัก

  1. แว่น ผม หนวด เครา

ฮิปสเตอร์นิยมใส่แว่นกรอบสี่เหลี่ยมทรงหนา ไม่ว่าสายตาจะปกติหรือไม่ก็ตาม แต่ใส่แล้วจะเพิ่มดีกรีความฮิปขึ้นอีกเลเวลหนึ่งทันที ส่วนทรงผมนั้น ตอนนี้ฮิปสเตอร์นิยมตัดผมกับช่างแนวบาร์เบอร์ย้อนยุค เป็นทรงไถด้านข้างสูงๆ แล้วเสยขึ้นไป อัดน้ำมันใส่ผมเหนียวๆ ที่มีชื่อเฉพาะว่าปอมเมด ไม่ใช่เจลหรือแว็กซ์ทั่วไป ราคาค่าตัดตั้งแต่ 400-1500 บาท ไม่รวมค่าปอมเมดกระปุกเล็กๆ ราคา 400-1000 บาทอีกต่างหาก ทรงผมนี้ก็ใช่ว่าทุกคนไว้แล้วจะดูดี บางคนตัดออกมาแล้วหน้ายังกะ แมนนี่ บาเกียว ก็มี ยังไงก็ขอฝากให้ช่วยใคร่ครวญตรงนี้ด้วย และที่สำคัญมากคือหนวด-เครา ฮิปสเตอร์เมืองนอกนั้นนิยมไว้เคราเฟิ้มๆ ที่มาต่อกับหนวดพอดี หรือหนวดที่จัดแต่งโง้งแบบพี่เล็ก คาราบาว แต่ฮิปสเตอร์ไทยซึ่งพันธุกรรมไม่ใช่พันธฺขนดกมีไม่กี่คนที่จะไว้ทั้งหนวดเคราแบบเขาได้ ส่วนใหญ่เลยต้องเอาดีทางการไว้หนวดแทน บางคนหนวดไม่ค่อยจะมี เดือดร้อนต้องไปหายาปลูกหนวดอีก ชีวิตช่างยุ่งยากจริงๆ

  1. การกินอยู่

ฮิปสเตอร์จะเน้นการกินอาหารในสิ่งแวดล้อมที่ดูเก๋มาก่อนอาหารอร่อย ถ้าร้านดูไม่สวย ไม่เท่ พวกเขาก็ไม่ค่อยอยากจะย่างกรายเข้าไปนัก เพราะมันไม่ถูกจริต แต่ถ้าเป็นร้านที่แต่งแนวเท่ๆ เป็นไม้ๆ หรือปูนเปลือย ใช้โต๊ะนักเรียนหรือจักรเย็บผ้าให้ลูกค้านั่ง เสิร์ฟอาหารมาในจานไม้ ค็อกเทลหน้าตาแปลกๆ ในขวดแยมเก่าที่นำมารีไซเคิล นี่ใช่เลย เราเชื่อว่าฮิปสเตอร์คงมีการกินข้าวไข่เจียว ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว มั่งแหละย่า แต่พวกเขาไม่อัพรูปตอนกินอะไรแบบนี้ให้เราเห็นหรอก เสียสถาบันฮิปสเตอร์หมดสิ!

 

ฮิปสเตอร์ที่เป็นตัวตนแท้ๆของคุณในปัจจุบัน

hipster-01ฮิปสเตอร์ คือเด็กแนวในอีกรูปแบบหนึ่งแต่ไม่จำเป็นต้องเป็นวัยรุ่นเสมอไป ส่วนมากวัยของฮิปสเตอร์จะอยู่ในช่วงมหาลัยไปจนถึงวัยทำงาน คือ 18-30+ ปี พวกเขาคือคนที่นิยมทุกสิ่งที่นอกกระแส ไม่ว่าจะแต่งกาย ดูหนัง ฟังเพลง กิจกรรม ไปจนถึงการกินอยู่เลยทีเดียว ฮิปสเตอร์นิยมใส่แว่นกรอบสี่เหลี่ยมทรงหนา ไม่ว่าสายตาจะปกติหรือไม่ก็ตาม แต่ใส่แล้วจะเพิ่มดีกรีความฮิปขึ้นอีกเลเวลหนึ่งทันที ส่วนทรงผมนั้นตอนนี้ฮิปสเตอร์นิยมตัดผมกับช่างแนวบาร์เบอร์ย้อนยุค เป็นทรงไถด้านข้างสูงๆ แล้วเสยขึ้นไป อัดน้ำมันใส่ผมเหนียวๆ ทรงผมนี้ก็ใช่ว่าทุกคนไว้แล้วจะดูดี และที่สำคัญมากคือหนวดเครา ฮิปสเตอร์เมืองนอกนั้นนิยมไว้เคราเฟิ้มๆที่มาต่อกับหนวดพอดี

เป็นกระแสที่มีมานานแล้วแต่เพิ่งจะมาเป็นประเด็นในสังคมไทยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮิปสเตอร์เป็นคำที่ใช้เรียกหรืออธิบายถึงคนที่ชอบทำตัวแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในสังคมคล้ายๆกับเด็กแนว เป็นกลุ่มคนที่เชื่อว่าตัวเองดำเนินชีวิตโดยไม่ไหลไปตามกระแสของอะไรง่ายๆ มีรสนิยมแปลกแตกต่าง มองเห็นเรื่องต่างๆด้วยมุมมองไม่เหมือนใคร และรู้สึกปลอดภัยเมื่อพบว่าตนเองกำลังเดินอยู่ในวิถีที่แตกต่าง โดยพื้นฐานแล้วฮิปสเตอร์คือกลุ่มบุคคลที่มีความคิดหัวก้าวหน้า รักธรรมชาติ รักษาสุขภาพ ดื่มด่ำกับงานศิลปะ และค่อนข้างรักอิสรเสรี ซึ่งแม้ฮิปสเตอร์แต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับประเด็นเหล่านี้ คือมักจะนิยมศิลปะ ชอบอ่านหนังสือ ฟังเพลง และดูภาพยนตร์ ทั้งผลงานประเภทที่ผู้คนอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยในชีวิต หรือผลงานที่หาได้โดยทั่วไป แต่ฮิปสเตอร์ก็มักจะเชื่อว่าตัวเองสามารถมองเห็นแง่มุมที่ลึกซึ้งของผลงานเหล่านั้นมากกว่าคนทั่วไป ต้องรักธรรมชาติ ทั้งเลือกอาหารออแกนิก นิยมการปั่นจักรยาน และไม่สนับสนุนกิจกรรมใดๆที่เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม

จะไปไหนก็ต้องเช็คอินและถ่ายภาพต่างๆอวดตลอด บางคนที่มีความสามารถในการเล่าเรื่องด้วยภาพและตัวอักษรได้น่าสนใจ มีผู้ติดตามหลักพันคนก็ยกระดับขึ้นมาเป็นเน็ตไอดอลไปเลยก็มี แม้ฮิปสเตอร์จะชอบสโลว์ไลฟ์ แต่สำหรับเรื่องการสื่อสารแล้วกลับไม่ยักกะใช้นกพิราบหรือการเขียนจดหมาย พวกเขาหายใจเข้าออกเป็นการเสพข้อมูลในด้านเทรนด์และกระแสสังคมด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ และยิ่งสินค้าตระกูลแอปเปิลมีหน้าตาสวยทันสมัยจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ฮิปสเตอร์จะเลือกใช้ยี่ห้อนี้เป็นหลัก

ศิลปะกับการออกแบบ ต้องเดินไปพร้อมกับนักออกแบบ

ถ้าพูดถึงคำว่าการออกแบบหรือ “ดีไซน์” (design) เชื่อว่าหลายคนมักจะใช้คำนี้พ่วงติดมากับคำว่า ศิลปะหรือ “อาร์ต” (art) รวมกันเป็นคำว่า Art & Design ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราเห็นและได้ยินคำสองคำนี้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะจากชื่อสถาบันสอนศิลปะและการออกแบบ (Art & Design School) หลายๆแห่ง หรือจากสื่อต่างๆที่แวดล้อมรอบตัวเรา ทั้งที่ความจริงแล้ว “ศิลปะกับการออกแบบ” แม้จะเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวพันกันอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเดียวกันเสียเมื่อไราจะเรียกว่าเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ก็ไม่น่าจะผิดนัก

การออกแบบเกิดขึ้นเพื่อมุ่งป้องกันและแก้ไขปัญหาของสิ่งต่างๆ ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติการ ดังนั้น การออกแบบจึงกินความหมายครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกสาขาวิชาที่ต้องการการวางแผนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตคนเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การออกแบบอาคารบ้านเรือน ผังเมือง ถนนหนทาง เพื่อการอยู่อาศัยที่ถูกสุขลักษณะ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การออกแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ที่ตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิต การออกแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดพลังงาน การออกแบบหลักสูตรวิชาภาษาอังกฤษเพื่อให้เรียนรู้ครบทุกทักษะ การออกแบบแผนการทำธุรกิจเพื่อทำกำไรสูงสุด ลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด การออกแบบเวทีละครเพื่อให้เกิดความสวยงามและใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การออกแบบเว็บไซต์เพื่อให้ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม หากจะบอกว่าการออกแบบทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นศิลปะการใช้ชีวิตและเป็นศิลปะในการจัดการกับปัญหาในชีวิตอย่างหนึ่งก็คงไม่ผิด แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า ถ้าหากเราเอาการออกแบบไปผูกติดอยู่กับศิลปะ การรับรู้ของเรา จะถูกตีกรอบจำกัดอยู่ในความหมายของทัศนศิลป์ (visual art) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และตรงนี้เองที่ทำให้หลายคนเลิกคิด มองข้าม ละความสนใจ หรือแม้กระทั่งเพิกเฉยต่อการคิดริเริ่มออกแบบ เพราะคิดไปว่า การออกแบบเป็นของที่กินไม่ได้ ไม่เกี่ยวข้องกับปากท้อง ชีวิต และการทำมาหากินโดยตรง ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดมหันต์ในทุกวันนี้

ใช้ศิลปะในการออกแบบเสื้อผ้า


ด้วยผลงานการออกแบบผืนผ้าที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งไม่เพียงแต่การใช้จินตนาการสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปสู่การพัฒนารูปแบบในเชิงพาณิชย์ต่อไปได้

หลายคนเข้าใจว่า การเรียนสาขาแฟชั่น จะต้องอยู่แต่กับการออกแบบเสื้อผ้าเท่านั้น แต่เราสามารถทำงานได้หลากหลาย และมีความชื่นชอบงานผ้า ทั้งในด้านของเทคนิค ในการออกแบบลวดลายบนผ้า รวมถึงการทำแพตเทิร์นผ้า

การออกแบบเครื่องใช้ที่ทำด้วยผ้าที่นิยมใช้ในชีวิตประจำวัน ควรคำนึงถึงหลักการเพื่อความคุ้มค่าของาน ดังนี้

1.คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย สำหรับเครื่องที่ทำด้วยผ้า ถ้าเรารู้จักออกแบบให้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างก็จะทำให้คุ้มค่าต่อการ ใช้งาน เช่น กระเป๋าเอนกประสงค์ สามารถออกแบบโดยใช้เป็นหมวกกันแดดได้ด้วย เป็นต้น

2.คำนึงถึงความสวยงามโดยให้มีสีสัน ลักษณะมองดูแล้วสะอาด สวยงาม น่าใช้ เช่น ผ้าเช็ดมือสำหรับแขวนในห้องน้ำ ควรเป็นผ้าสีอ่อนสะอาดตา เช่น สีขาว สีชมพู สีฟ้า เป็นต้น

3.คำนึงถึงการดูแลรักษา หรือการทำความสะอาด สำหรับเครื่องใช้ประเภทผ้าที่เปื้อนง่าย ต้องทำความสะอาดบ่อยหรือทุกครั้งหลังจากการใช้งาน ควรออกแบบให้เป็นแบบเรียบ และเลือกใช้ผ้าที่ทนทานต่อการซักรีด เช่น ผ้าลินิน เป็นต้น

ในการออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย เพื่อให้เกิดความสวยงามเหมาะสมและคุ้มค่าสามารถนำไปใช้ได้ยาวนาน ผู้ออกแบบควรคำนึงถึงความสวยงามเหมาะสม เสื้อผ้าบางแบบอยู่ในสมัยนิยมแต่ไม่เหมาะกับบุคลิกของผู้สวมใส่บางคน ทั้งนี้ ผู้ออกแบบเสื้อผ้าจึงควรมีความรู้ความเข้าใจเพื่อนำหลักการไปใช้ในการออกแบบ ให้เหมาะสม ช่วยอำพรางส่วนที่พกพร่อง และช่วยเสริมจุดเด่นให้มีบุคลิกลักษณะที่ดียิ่งขึ้น

ศิลปะ เป็นเรื่องของความรู้สึก ที่ทำให้ผู้ที่พบเห็นงานเกิดความรู้สึกต่าง ๆ ตามแต่จะจินตนาการกันออกไป คนที่สนใจเรียนในด้านการออกแบบ อยากฝากให้หมั่นฝึกฝนฝีมือไว้ก่อน เพราะศิลปะสามารถแตกออกไปหลากหลายแขนง พอจุดหนึ่งจะค้นพบทางที่ถนัด และชื่นชอบ เราต้องพยายามหาตัวเองให้เจอในช่วงเวลาที่ยังเรียนอยู่ และต้องมีความมุ่งมั่นทำให้ดีที่สุด หากเราตั้งใจทำแล้ว ผลงานที่ดีจะออกมาเอง

กระแสนิยมที่ทำให้เกิดการเลียนแบบการแต่งกายของเด็กตามผู้ใหญ่

Girls in wardrobe

เนื่องจากความปัจจุบันของสังคมไทยนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม ความคิดและวิถีชีวิตที่แตกต่างจากเดิม จากผลของบริวารและสภาพแวดล้อมและด้วยที่เทคโนโลยีที่พัฒนาขยายอย่างรวดเร็ว ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นก้าวเข้าสู่ความทันสมัย นอกจากจะนำไปสู่สภาพของสังคม  เศรษฐกิจและการเมืองที่เปลี่ยนไปแล้วก็คือ เรื่องค่านิยมที่ผสมผสานและได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก ประกอบกับระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเสรี และสภาวะของโลกาวิวัฒน์ ที่ได้นำไปสู่กะแสของการบริโภคนิยม  ที่ทำให้คนในสังคมแบบสมัยใหม่มีความฟุ้มเฟ้อในเรื่องของวัตถุ เงินทองและสิ่งต่างๆ อันเกิดจากค่านิยมเสรี และการเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกที่ทำให้คนในสังคมมีความปรารถนาและความต้องการในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพของทรัพย์สิน ร่างกายและชีวิตมากขึ้น และสิ่งเหล่านี้เองก็ก็ได้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของและพฤติกรรมทางสังคมองคนไทย โดยเฉพาะคนไทยรุ่นใหม่ที่เติมโตขึ้นมาในช่วงยุคของโลกาวิวัฒน์หรือยุคสมัยใหม่ และได้รับอิทธิพลกระแสของวัฒนธรรมตะวันตก การบริโภคนิยม ผ่านสภาพแวดล้อมทางสังคม ลักษณะของครอบครัวที่เปลี่ยนไปจากอดีต  รวมทั้งอิทธิพลจากสื่อและเทคโนโลยี สารสนเทศสมัยใหม่ ที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของคนยุคใหม่หรือวัยรุ่น ทำให้พฤติกรรมบางประการของคนยุคใหม่หรือวัยรุ่นยุคใหม่ในสังคมไทยไม่ได้เป็นไปตามแนวทางของคุณค่าและจริยธรรมที่สังคมเดิมของตนกำหนดค่านิยมได้เปลี่ยนไป ตามกระแสของการบริโภคนิยม และสังคมในยุคสมัยโลกกาวิวัฒน์ส่งผลให้สภาพสังคมไทยได้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก

อะไรเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้วัยรุ่นตอนปลายเริ่มหันมาแต่งตัวตัวไม่เหมาะสมไม่ใช่เพียงแค่ค่านิยมเท่านั้นกระแสจากอิทธิพลของกลุ่มวัยรุ่นด้วยกันเอง สิ่งที่ตามมาคือค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยนั้นตามมาด้วย เเละเมื่อกลุ่มวัยรุ่นเริ่มการสนใจกับการแต่งตัวนั้นเเล้ว ยังส่งผลร้ายอื่นๆตามมาไม่ใช่แค่ไม่เหมาะสมเท่านั้นพลอยเสียอนาคตไปด้วย ตัวอย่างเช่น เด็กนักศึกษาปี1 มหาลัยชื่อดัง ออกเทียวกลางคืนเนื่องจากการแต่งกายที่ล่อแหลมเเล้วยังทำให้เกิดอาชญากรรมได้อีกด้วย ผลกระทบที่เกิดจากปัญหาการแต่งกายไม่เหมาะสมของนักศึกษาแฟชั่น ชุดนักศึกษายุคใหม่ที่เน้นตามกระแสแฟชั่นได้รับความนิยมสูง ขายดีทั้งชุดของผู้ชายและผู้หญิงเพราะราคาถูก ดูทันสมัย แต่ความจริงแล้วการแต่งกายเสื้อผ้าเล็กเกินไป นอกจากจะดูไม่งามแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกด้วยปัญหาอาชญากรรม การถูกล่วงละเมินทางเพศ การข่มขืน การถูกล่อล่วงไปกระทำอนาจารส่งผลต่อวัฒนธรรมการแต่งกายที่ดีงามของนักศึกษา ที่เป็นปัญญาชนกลับถูกมองในด้านลบเสื่อมเสียไปถึงสถาบันที่ศึกษาเป็นการตามกระแสนิยมที่ผิดๆ เป็นกระแสนิยมที่ทำให้เกิดการเลียนแบบการแต่งกายของเด็กตามผู้ใหญ่ ทำให้สิ้นเปลื้องเงินของผู้ปกครองโดยใช่เหตุและยังเป็นการปลูกฝังค่านิยมแก่คนรุ่นน้องที่ผิดๆ

รสนิยมของการแต่งกายขึ้นอยู่กับศิลปะ

เสื้อผ้าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องนุ่งห่ม หรือเครื่องแต่งกาย เสื้อผ้ามีไว้ปกปิดร่างกาย และป้องกันภัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และเสื้อผ้ายังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพให้มีภาพลักษณ์ที่ดี หากต้องการมีภาพลักษณ์ที่ดี ผู้นั้นจะต้องเลือกแต่งกายดี มีรสนิยม รสนิยมของการแต่งกายขึ้นอยู่กับศิลปะ ศิลปะในการแต่งกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในการแต่งกายโดยทั่วไปจะคำนึงถึงขนาด รูปร่าง เพศ วัย และบุคลิกของการสวมใส่ และศิลปะจะเป็นส่วนเสริมเพิ่มเติมหรือประดับตกแต่งให้เกิดรสนิยม ศิลปะจึงมีความสัมพันธ์กับเสื้อผ้าและการแต่งกาย

องค์ประกอบศิลปะที่นำมาเกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าและการแต่งกาย ได้แก่
1. ขนาดและสัดส่วน (Size and Proportion) ขนาดและสัดส่วนมีความสัมพันธ์กัน ขนาดเกี่ยวพันกับสัดส่วน หากร่างกายมีขนาดใหญ่ สัดส่วนจะขยายใหญ่ ดังนั้นในการแต่งกาย หรือการออกแบบเสื้อ ผ้าที่แก้ไขข้อบกพร่องของสัดส่วนของร่างกาย เช่น คนหน้าอกใหญ่ ควรสวมเสื้อที่มีปกหรือเสื้อคอวี เพื่อช่วยให้ทรวงอกเล็กลง หรือผู้ที่อ้วนควรเลือกเสื้อผ้าชุดหลวมที่ไม่เน้นบริเวณเอว หรือคับตึง เพราะจะเน้นให้เห็นขนาดที่ชัดเจน
2. ความกลมกลืน (Harmony) ความ กลมกลืนในการแต่งกาย ได้แก่ ความกลมกลืนของสีเสื้อผ้าและการตกแต่ง การใช้สีตกแต่ง ควรมีความกลมกลืนกับบุคลิก อายุ เพศ และวัย ผู้สูงอายุควรใช้เสื้อผ้าที่มีสีเข้ม ไม่ฉูดฉาด เพราะจะทำให้ดูอ่อนโยน
3. การตัดกัน (Contrast) การ ตัดกันในการแต่งกาย ทำได้หลายวิธี ทั้งในด้านการตัดกันด้วยขนาดลวดลาย แบบ หรือสี การตัดกันเพื่อสร้างจุดเด่น ดังนั้นในการตัดกัน จึงควรคำนึงถึงผู้สวมใส่ ว่ามีบุคลิกภาพที่เหมาะสมอย่างไร ในการตัดกันควรพิจารณาถึงปริมาณของการตัดกัน ซึ่งไม่เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ของผลงาน เช่น การใช้สีตัดกันของเสื้อผ้า ควรตัดกันไม่เกิน 80 เปอร์เซ็นต์
4. เอกภาพ (Unity) เอกภาพ ของการแต่งกายคล้ายกับความกลมกลืน ซึ่งเน้นในด้านความสัมพันธ์และความสอดคล้อง ในการแต่งกายควรให้มีความสอดคล้องในด้านแบบ สี หรือการตกแต่ง ให้ผสมกลมกลืนเป็นกลุ่มเดียวกัน หรือในลักษณะเดียวกันเพื่อดูเรียบร้อยสวยงาม เอกภาพในการแต่งกายได้แก่การแต่งกายในชุดทำงานที่มีสีเดียวกัน ตกแต่งในแบบเรียบง่าย แต่ดูคล่องแคล่วในการปฏิบัติงาน
5. การซ้ำ (Repetition) หาก ในการจัดอาหาร การวางแตงกวารอบขอบจานคือการซ้ำ ในการแต่งกายการเรียงกระดุมของเสื้อผ้าก็คือการซ้ำเช่นกัน การซ้ำทำในลักษณะของการตกแต่ง เช่น การติดลูกไม้รอบคอเสื้อ หรือชายกระโปรง หรือการตกแต่งด้วยลวดลายของผ้า และสีของการตกแต่ง เหตุที่ต้องทำซ้ำก็เพื่อดึงดูดความสนใจ หรือเบี่ยงเบนความสนใจของส่วนบกพร่องต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเอง
6. จังหวะ (Rhythm) ใน การแต่งกาย จังหวะเปรียบเสมือนช่วงระยะของการนำสายตาที่เชื่อมโยงหรือต่อเนื่องกัน หรือการประสานต่อเนื่องกันของสายตาอย่างมีจังหวะของส่วนประกอบเครื่องแต่ง กาย เช่น ปกเสื้อ เข็มขัด กระโปรงหรือรองเท้า การออกแบบเสื้อผ้าอย่างมีจังหวะก็เพื่อสานองค์ประกอบย่อยเข้าเป็น องค์ประกอบใหญ่ เพื่อสร้างจุดเด่นที่ชัดเจน การเชื่อมโยงสายตาอย่างมีจังหวะสามารถทำได้โดยการซ้ำของวัสดุที่คล้ายกัน หรือต่างกัน โดยทำเป็นจังหวะที่เหมือนกันหรือต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการสร้างจุดสนใจนั้น ๆ
7. การเน้น (Emphasis) เมื่อ จังหวะสร้างจุดเด่น จุดเด่นนั้นจะทำให้เกิดการเน้น ในการเน้นของการแต่งกายเป็นการอำพรางข้อบกพร่อง โดยเบี่ยงเบนความสนใจไปยังส่วนอื่น หรือในขณะเดียวกันการเน้นอาจเรียกร้องหรือสร้างจุดสนใจให้กับการออกแบบนั้น ๆ ในการเน้นอาจเน้นด้วยเครื่องประดับ ลวดลาย หรือสีสันของลวดลายผ้า
8. ความสมดุล (Balance) ความ สมดุลในการแต่งกายทำได้หลายวิธี ในการสร้างความสมดุลของการแต่งกายจะจัดแบ่งเป็นด้านบน และด้านล่าง เช่น เสื้อและกระโปรง หรือเสื้อกับกางเกง การทำให้สมดุล อาจใช้ลวดลายหรือน้ำหนักของสีเสื้อผ้าช่วยในการแบ่งน้ำหนักได้ เช่น ใส่กระโปรงสีดำ และใส่เสื้อสีขาวสลับดำ เป็นต้น

ปัจจุบันนี้คงจะหนีไม่พ้นแฟชั่นที่มาแรงแซงทางโค้งนั่นก็คือแฟชั่นสไตล์เกาหลีกระแสนิยมที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน

4

เสื้อผ้าแฟชั่นในปัจจุบันมีรูปแบบที่สวย สดใส น่ารัก และทันสมัยมากๆ เนื่องจากสาวๆ มีการเปิดใจรับแฟชั่นเสื้อผ้าจากทางต่างประเทศเข้ามา ทั้งเสื้อผ้าเกาหลี ยุโรป อเมริกา ซึ่งอาจจะมีทั้งที่เหมาะ และไม่เหมาะกับอากาศร้อนๆ อย่างบ้านเรา แต่สาวไทยเราก็มีวิธีการปรับรูปแบบแฟชั่นเสื้อผ้านั้นๆ ให้เข้ากับอากาศบ้านเราได้อย่างลงตัว และโดดเด่น จนอาจจะกลายเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าไปเลยก็ได้ แต่ยังไงซะสาวไทยอย่างเราๆก็รู้จักที่จะใส่เสื้อผ้าแฟชั่นที่เหมาะสมกับกาละ เทศะอยู่แล้วล่ะคะ

หากพูดถึงเรื่องแฟชั่นแล้ว ปัจจุบันนี้คงจะหนีไม่พ้นแฟชั่นที่มาแรงแซงทางโค้ง นั่นก็คือ “แฟชั่นสไตล์เกาหลี” กระแสนิยมที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน แฟชั่นในยุคนี้ “เทรนด์เกาหลี” เริ่มเข้ามาในสังคมไทยเรามากสุด ๆ เมื่อพูดถึงคำ ๆ นี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนะคะ กระแสที่มาแรงทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมทางด้านการบันเทิง ดารา นักร้อง ซีรี่ส์ต่าง ๆ ในด้านของภาษาก็เป็นที่นิยมไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้มีจำนวนนิสิตนักศึกษาไม่น้อยที่สนใจและเลือกเรียนภาษาเกาหลีมาก ขึ้น พวกเราเริ่มรู้จักวัฒนธรรมเกาหลีกันมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารการกิน การทักทาย และแฟชั่นเสื้อผ้า เพราะว่าคนเกาหลีเน้นสวมเสื้อผ้าตามฤดูกาลแตกต่างกันไป แต่ละฤดูมีลักษณะการแต่งกายที่ไม่เหมือนกัน เช่น

ฤดูใบไม้ผลิ หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกว่า “พม” ฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นสีเสื้อผ้าที่ฉูดฉาด สดใส เสื้อผ้ามีหลากหลายสไตล์ด้วยกันฤดูร้อน หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกว่า “ยอรึม” ในฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นสีสดใสเช่นกัน แต่โทนสีอ่อนลงมากกว่า ลักษณะเสื้อผ้าจะเป็นเสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น กางเกงสามส่วน เป็นต้น ฤดูใบไม้ร่วง หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกกันว่า “คาอึล” ในฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นเสื้อผ้าสีทึบ ๆ มืด ๆ เช่น สีน้ำเงิน สีน้ำเงินเข้ม สีกรมท่า สีน้ำตาล ฤดูหนาว หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกกันว่า “คยออูล” ฤดูนี้เสื้อผ้าส่วนใหญ่เน้นสีดำเป็นหลัก เสื้อแขนยาวสีเข้ม เสื้อกันหนาวสีดำ เสื้อไหมพรมใส่คู่กับผ้าพันคอสีเข้ม ๆ เสื้อสไตล์เกาหลี โดยส่วนใหญ่แล้วจะใส่เสื้อสองตัวซ้อนกัน เหตุเป็นเพราะว่าอากาศในประเทศเกาหลีค่อนข้างหนาวเย็น เพราะฉะนั้นจึงเน้นเสื้อตัวยาว ๆ โทนสีอาจตัดกันหรือเป็นโทนเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความชอบ ส่วนกางเกง มักเป็นกางเกงประมาณเข่า มีผ้าผูกเอวประดับแทนเข็มขัด ในฤดูหนาวจะเป็นกางเกงขายาวแทน

วัยรุ่นกับศิลปะทางด้านแฟชั่น

ศิลปะนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ฉะนั้นจึงทำให้คนที่ออกแบบศิลปะมีหลากหลายสาขา ซึ่งวันนี้เรามีศิลปะเกี่ยวกับแฟชั่นโดยศิลปะทางด้านแฟชั่นทุกวันนี้ได้มีการพัฒนาไปอย่างมาก โดยส่วนใหญ่แล้วแฟชั่นที่เราพบเห็นได้มากก็คือ การออกแบบเสื้อผ้า รองเท้า ซึ่งแฟนชั่นเหล่านี้ได้มีการนำศิลปะมาประยุกต์ให้มีความเหมาะสมและสวยงามตามยุคตามสมัย

วัยรุ่นกับแฟชั่นนั้นเป็นสิ่งที่ขาดจากกันไม่ได้ ซึ่งแฟชั่นก็คืองานศิลปะด้านการออกแบบอีกรูปแบบหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่วัยรุ่นหยุดตามแฟชั่น เมื่อนั้นแฟชั่นยุคนั้นก็จะหมดลง ศิลปะเป็นสิ่งที่คนเราต้องอยู่กับการดำเนินชีวิตของเรามาก เพราะถ้าเราไม่มีการนำศิลปะมาใช้ในการดำเนินชีวิตก็จะทำให้การดำเนิน เชื่อว่าในช่วงชีวิตหนึ่งตอนที่เราเป็นวัยรุ่นเราอาจจะต้องเคยอินเทรนด์กับแฟชั่น โดยวันนี้เรามีการนำศิลปะกับการดำเนินชีวิตของคนเรามาฝากครับ ศิลปะแฟชั่นกับวัยรุ่น  เรามาดูกันว่า วัยรุ่นนั่นมีอิทธิพลต่อศิลปะทางด้านแฟชั่นมากน้อยเพียงใด

สำหรับแฟชั่น คือ การนำศิลปะมาประยุกต์เป็นผลงานศิลปะที่มีความหลากหลาย โดยที่แฟชั่นแต่ละอย่างนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป เช่น  แฟชั่นเสื้อผ้าที่มีรูปทรงและสีสันต์ที่สวยงามที่มีความทันยุคทันสมัย  โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่จะนำแฟชั่นก็จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว เพราะวัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต และเป็นวัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงระหว่างวัยเด็กและผู้ใหญ่ มีพัฒนาการทั้ง 4 ด้านไปพร้อม ๆ กัน ได้แก่ ร่างกาย อารมณ์ สติปัญญา และสังคม ฉะนั้นวัยรุ่นจึงเป็นวัยที่ต้องการเรียนรู้และมีความคิดที่แตกต่างและกล้าเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง อย่างรวดเร็วแฟชั่นก็เหมือนกัน วัยรุ่นจะนิยมเปลี่ยนแฟชั่นกันบ่อยมาก ทั้งนี้การเปลี่ยนแฟชั่นในแต่ละอย่างนั่น จะมียุคของเขาเหมือนกันอย่างเช่น เพื่อนวัยรุ่นในกลุ่มได้นำรูปแบบการแต่งตัว สวมเสื้อผ้าต่างๆที่แปลกแหวกแนว และดูเท่ห์  ก็จะทำให้วัยรุ่นในกลุ่มเอาไปลองแต่งตัวตามดูบ้าง จึงทำให้แฟชั่นรูปแบบนั้นมีการเผยแพร่อย่างรวดเร็วอย่างไรก็ตามถือได้ว่าแฟชั่นมีอิทธิพลต่อวัยรุ่นมาก ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่าศิลปะการแต่งกายและแฟชั่นเป็นของคู่กันกับวัยรุ่นนั่นเอง

การสร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจของนักออกแบบแฟชั่น

พรสวรรค์ กลายเป็นความสามารถพิเศษในบางสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด เช่น พรสวรรค์ด้านการวาดภาพ ซึ่งหากไม่ได้รับการสนับสนุนที่ถูกทาง อาจไม่มีพัฒนาการและอาจจะหลบซ่อนอยู่ในตัวเจ้าของพรสวรรค์จนตลอดชีวิต ซึ่งอาชีพดีไซเนอร์คงจะเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ใครๆหลายคนอยากจะเป็น แต่การจะทำงานในอาชีพนี้เป็นศิลปะแบบหนึ่งที่ไม่ใช่ใครจะมาทำกันง่ายๆ แต่ต้องมีใจรักและมีพรสวรรค์ด้านนี้มาบ้างพอสมควร และที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดของการเป็นดีไซเนอร์ที่ดี นั่นคือทุกคนต้องมีพรแสวง ที่จะสรรหาความรู้เพิ่มเติมที่ทันสมัย นำสมัย ตามแนวแฟชั่นให้ทันเสมอ และมีความคิดสร้างสรรค์และมีไอเดียที่แปลกใหม่เสมอ

ปัจจัยที่ทำให้ผู้ที่ประกอบอาชีพนี้ประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในอาชีพ

ก็คือการคงไว้ซึ่งการเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าหรือแฟชั่นดีไซเนอร์ไว้ ซึ่งต้องใช้โอกาส เวลา และค่าใช้จ่ายในการผลิต และการแสดงผลงานที่มีต้นทุนต่ำให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเต็มศักยภาพ ซึ่งนักออกแบบแฟชั่นไม่ควรย่ำอยู่กับที่ ควรมีความคิดเชิงรุกมากกว่ารับเพียงคำสั่งจากลูกค้าควรศึกษาหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพและควรสร้างโอกาสให้ตนเอง เช่น การศึกษาภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม ศึกษาด้านการตลาด ความต้องการของลูกค้า กลุ่มเป้าหมายลูกค้าใหม่ เสาะหาแหล่งตลาดวัตถุดิบ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่ครบวงจร สร้างแนวโน้มแฟชั่น ศึกษารูปแบบของสินค้าจากต่างประเทศ และข้อกีดกันทางการค้า ซึ่งเป็นปัจจัยในความก้าวหน้าทันโลก และยืนอยู่ในอาชีพได้นาน และอาจสร้างผลงานที่คนไทยภูมิใจ หันมาใส่เสื้อผ้าที่ผลิตโดยนักออกแบบเสื้อผ้าไทยกันทั่วประเทศ

ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาดีไซเนอร์ไทยมีพัฒนาการในเรื่องความคิด การสร้างสรรค์ผลงานค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับสมัยก่อน แต่ดีไซเนอร์ไทยเก่งๆมักมีข้อกำจัดทางภาษา ความกล้าแสดงออก และการนำเสนอผลงานที่ยังทำได้ไม่เต็มที่ ทำให้งานดีไซน์ดีๆมากมายกลับไม่เป็นที่รู้จัก หรือผ่านตาสาธารณะชนที่ต้องการเห็นศักยภาพและความสามารถของดีไซเนอร์ชาวไทย หากงานออกแบบไทยได้ก้าวข้ามข้อจำกัดและมีการนำเสนอที่ถูกต้อง จะทำให้ผลงานของคนไทยได้รับการยอมรับเทียบเท่าดีไซเนอร์ระดับโลกได้ไม่ยาก เพราะความสุขในการทำงานคือสิ่งที่สำคัญในทุกๆอาชีพ ถ้าเราชอบและมีความสุขในทุกๆวัน นั่นก็จะนำมาซึ่งไอเดียและแรงบันดาลใจ ความสุขเป็นสิ่งที่ลอกเลียนกันหรือขอยืมกันไม่ได้ เราจะต้องสร้างหรือค้นหาให้พบ