หลายคนคงเคยได้ยินคำว่าฮิปสเตอร์อยู่บ่อยๆ ทั้งจากสื่อและโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่อาจไม่แน่ใจว่าฮิปสเตอร์คืออะไร ฮิปสเตอร์มีลักษณะยังไงไปดูกันเลยค่ะ
จะว่าไป ฮิปสเตอร์ก็คือเด็กแนวในอีกรูปแบบหนึ่งนั่นเอง แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นวัยรุ่นเสมอไป ส่วนมากวัยของฮิปสเตอร์จะอยู่ในช่วงมหาลัยไปจนถึงวัยทำงาน คือ 18-30+ ปี พวกเขาคือคนที่นิยมทุกสิ่งที่นอกกระแส ไม่ว่าจะแต่งกาย ดูหนัง ฟังเพลง กิจกรรม ไปจนถึงการกินอยู่เลยทีเดียว ฮิปสเตอร์จะยี้กับทุกสิ่งที่มีความเป็นแมสหรือป๊อบ และเพื่อจะให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เราจะยกตัวอย่างลักษณะของฮิปสเตอร์โดยทั่วไปมา 10 อย่าง ซึ่งถ้าใครมีลักษณะหรือพฤติกรรมเข้าข่ายลักษณะที่ยกมาเกินกว่าครึ่งแล้ว นั่นแหละ จัดว่าเป็น ฮิปสเตอร์อย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้วล่ะ
- ชอบถ่ายภาพแนวอาร์ตๆ เท่ๆ อย่างพร่ำเพรื่อ
กะโหลกกะลาบ้าบออะไรก็ถ่าย แล้วนำมาปรับสีด้วยแอพต่างๆ ตอนนี้ฮิปสเตอร์กว่า 80% นิยมปรับภาพให้มีโทนสีอุ่นๆ ซีดๆ โดยมีนิตยสารแนวไลฟ์สไตล์ชิคๆ คูลๆ อย่าง Kinfolk หรือ Cereal ของต่างประเทศเป็นพระคัมภีร์ต้นแบบ แม้ว่าโลเคชั่นจะเป็นเมืองไทยพวกเขาก็จะพยายามเซ็ตให้ดูคล้ายญี่ปุ่น อเมริกา หรือยุโรปที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฮิปสเตอร์มักจะมีทั้งกล้อง DSLR (ซึ่งบางคนก็พกไปงั้นแต่ไม่ได้ถ่ายอะไร แค่เอาไปวางไว้ให้ติดมาในเฟรมดูเท่ๆ เท่านั้นเอง) ยิ่งถ้าคนไหนที่ใช้กล้องฟิลม์ หรือมีกล้องฟิลม์แบบวินเทจอันเล็กๆ ด้วยแล้วล่ะก็ นั่นแหละฮิปสเตอร์ตัวพ่อตัวแม่แน่นอน
- ถ่ายภาพลงโซเชียลฯ
ถ่ายภาพแล้วมันยังไม่จัดว่าครบขั้นตอน ฮิปสเตอร์จะต้องโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ทั้ง IG, Twitter และ Facebook ส่วนคำบรรยายที่ใช้ประกอบภาพก็จะต้องเป็นวลีสั้นๆ ดูเพ้อๆ ลอยๆ เหงา และแอ๊บติสต์ไปด้วยในตัวภึงจะครบสูตร อ้อ! ที่ขาดไม่ได้เลยคือแฮชแท็ก ต้องใส่ให้เยอะๆ เข้าไว้ จะมีความหมายหรือไม่ไม่เป็นไร ใส่ไว้เยอะๆ ก่อน มันดูเก๋ดี ฮิปสเตอร์เขาชอบใช้กัน
- คลั่งไคล้ในข้าวของเครื่องใช้ที่มีความของอะนาล็อก
ของเหล่านี้ให้อารมณ์วินเทจย้อนยุค ไม่ว่าจะเป็นกล้องฟิลม์ กล้องโพลารอยด์ เครื่องเล่นแผ่นเสียง เชื่อหรือไม่ว่าฮิปสเตอร์หลายคนหันมาเล่นแม้กระทั่งเทปตาสเซ็ตหรือวิดิโอ จนทำให้สิ่งเหล่านี้มีราคาสูงขึ้นกลายเป็นของสะสมไปเลย
- หนังนอกกระแส-วงดนตรีแนวๆ
ไม่ว่าจะดูหนังหรือฟังเพลง หนังฮอลลีวู้ดนั้นจะไม่ค่อยถูกรสนิยมของพวกเขาเท่าไร ส่วนมากฮิปสเตอร์จะเลือกเสพเฉพาะหนังแนวๆ อาร์ตๆ เป็นหลัก ยิ่งหนังจากประเทศแปลกๆ เช่น อาร์เซอร์ไบจัน อุซเบกิสถาน หรือเอสโตเนีย ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักยิ่งรู้สึกเท่เป็นพิเศษ ดูเสร็จแล้วก็ต้องมารีวิวอย่างยืดยาวด้วยภาษาและแง่มุมลึกซึ้งลงในบล็อกหรือเฟซบุคซึ่งอ่านกันเอง อวยกันเองอยู่ในกลุ่มเล็กๆ ส่วนรสนิยมในการฟังเพลงของฮิปสเตอร์นั้นจะเน้นวงอินดี้ ไม่ว่าจะวงไทยหรือต่างประเทศ ยิ่งได้ฟังวงใหม่ๆ ก่อนใครยิ่งรู้สึกยืดเป็นพิเศษ เทศกาลดนตรีแนวๆ ที่เขาใหญ่ หรือพัทยา จึงเปรียบเสมือนงานเช็งเม้งที่พวกเขาจะต้องไปชุมนุมกันทุกปีเลยทีเดียว ส่วนถ้าฮิปสเตอร์จะฟังเพลงตลาดสุดๆ บ้างนั้น มักจะเป็นการแกล้ง ‘ฟังขำๆ’ มากกว่าชอบฟังด้วยความชื่นชมจริงๆ
- ร้านกาแฟเก๋ๆ ชิคๆ
ฮิปสเตอร์กับกาแฟเป็นสิ่งที่ขาดกันมิได้ แต่สำหรับฮิปสเตอร์แล้วจะซื้อกาแฟรถเข็นของอาแปะหรือร้านสะดวกซื้อนั้นมันไม่ใช่ ฮิปสเตอร์จะขวนขวายเสาะหาร้านกาแฟแต่งเก๋ๆ เล็กๆ ไม่ก็หรูหรามีระดับไปเลยเพื่อไปนั่งโพสต์ท่า เอ๊ย นั่งทำงาน แล้วถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียตามระเบียบ การถ่ายภาพแก้วกาแฟนั้นก็ต้องเลือกมุมเท่ๆ มีของประกอบฉากติดเข้ามาในเฟรม เช่นหนังสือที่ดูฉลาด แนวๆ สมุด ปากกา พวงกุญแจ หรือกระเป๋าที่บ่งบอกรสนิยมทันสมัยของพวกเขาด้วยเช่นกัน การดื่มกาแฟของพวกเขาจึงเปรียบเสมือนพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะต้องประดิดประดอยสุดฤทธิ์ แต่สำหรับคนทั่วไปแล้วชวนให้ตั้งคำถามว่า “จะเยอะไปไหน ทำไมต้องทำให้ยุ่งยากขนาดนั้น ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ” แต่หากวันไหนที่ฮิปสเตอร์ดื่มกาแฟร้านสะดวกซื้อพวกเขาจะไม่มีวันโพสต์ให้คุณเห็นหรอก ตลกดี
- จักรยาน
คนใช้จักรยานในเมืองไทยแบ่งได้เป็นสามกลุ่มคือ พวกปั่นเพื่อการเดินทาง พวกปั่นออกกำลังอย่างจริงจัง และพวกปั่นแบบชิคๆ คูลๆ เฉพาะวันหยุดหรือตอนกลางคืน ซึ่งเราจะพบฮิปสเตอร์ได้ในกลุ่มนักปั่นประเภทหลังเยอะมาก พวกนี้จะให้ความสำคัญกับรถ (บางคันราคาเป็นแสน ล้อแพงกว่าล้อแม็กรถยนต์ยังมีเลย) ออปชั่นแต่งรถ และชุดที่ใช้ใส่ปั่นมาก อย่าแปลกใจถ้าได้เห็นคนใส่เสื้อนอก หมวก กับกางเกงขาสั้น ปั่นจักรยาน เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว formต้องมาก่อน function เสมอ แม้จะดูกระแดะเพียงไรก้ไม่พรั่น การปั่นก็จะเน้นรวมตัวกันเป็นกลุ่มไปตามเส้นทางเก๋ๆ ที่นิยมมากเป็นพิเศษคือการปั่นไปทานอาหารตามร้านเท่ๆ หรือปั่นไปหาของกินตอนกลางคืนแถวเยาวราช สงสัยแถวบ้านคงไม่มีอะไรขายตอนดึกๆ แน่ ที่สำคัญ ต้องถ่ายภาพอัพลงเฟสด้วย ถ้าโลกนี้ไม่มีโซเขียมีเดีย เผลอๆ พวกนี้อาจไม่สนใจปั่นจักรยานซะด้วยซ้ำ
- โซเชียลมีเดียคือชีวิตจิตใจของพวกเขา
ฮิปสเตอร์จะไปไหนก็ต้องเช็คอิน และถ่ายภาพต่างๆ อวดตลอด บางคนที่มีความสามารถในการเล่าเรื่องด้วยภาพและตัวอักษรได้น่าสนใจ มีผู้ติดตามหลักพันคน ก็ยกระดับขึ้นมาเป็นเน็ตไอดอลไปเลยก็มี แค่จะให้ทะลุไปหลักหลายหมื่นแบบน้องมันแกว น้องมุกกี้ นั้นคงยากหน่อย เพราะฮิปสเตอร์ยังมีไม่มากพอขนาดทาสนมอย่างเราๆ ท่านๆ หรอก
- ไอโฟน ไอแพด แม็คบุค
แม้ฮิปสเตอร์จะชอบสโลว์ไลฟ์ แต่สำหรับเรื่องการสื่อสารแล้วกลับไม่ยักกะใช้นกพิราบหรือการเขียนจดหมาย พวกเขาหายใจเข้าออกเป็นการเสพข้อมูลในด้านเทรนด์และกระแสสังคมด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ และยิ่งสินค้าตระกูลแอปเปิลมีหน้าตาสวยทันสมัยจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ฮิปสเตอร์จะเลือกใช้ยี่ห้อนี้เป็นหลัก
- แว่น ผม หนวด เครา
ฮิปสเตอร์นิยมใส่แว่นกรอบสี่เหลี่ยมทรงหนา ไม่ว่าสายตาจะปกติหรือไม่ก็ตาม แต่ใส่แล้วจะเพิ่มดีกรีความฮิปขึ้นอีกเลเวลหนึ่งทันที ส่วนทรงผมนั้น ตอนนี้ฮิปสเตอร์นิยมตัดผมกับช่างแนวบาร์เบอร์ย้อนยุค เป็นทรงไถด้านข้างสูงๆ แล้วเสยขึ้นไป อัดน้ำมันใส่ผมเหนียวๆ ที่มีชื่อเฉพาะว่าปอมเมด ไม่ใช่เจลหรือแว็กซ์ทั่วไป ราคาค่าตัดตั้งแต่ 400-1500 บาท ไม่รวมค่าปอมเมดกระปุกเล็กๆ ราคา 400-1000 บาทอีกต่างหาก ทรงผมนี้ก็ใช่ว่าทุกคนไว้แล้วจะดูดี บางคนตัดออกมาแล้วหน้ายังกะ แมนนี่ บาเกียว ก็มี ยังไงก็ขอฝากให้ช่วยใคร่ครวญตรงนี้ด้วย และที่สำคัญมากคือหนวด-เครา ฮิปสเตอร์เมืองนอกนั้นนิยมไว้เคราเฟิ้มๆ ที่มาต่อกับหนวดพอดี หรือหนวดที่จัดแต่งโง้งแบบพี่เล็ก คาราบาว แต่ฮิปสเตอร์ไทยซึ่งพันธุกรรมไม่ใช่พันธฺขนดกมีไม่กี่คนที่จะไว้ทั้งหนวดเคราแบบเขาได้ ส่วนใหญ่เลยต้องเอาดีทางการไว้หนวดแทน บางคนหนวดไม่ค่อยจะมี เดือดร้อนต้องไปหายาปลูกหนวดอีก ชีวิตช่างยุ่งยากจริงๆ
- การกินอยู่
ฮิปสเตอร์จะเน้นการกินอาหารในสิ่งแวดล้อมที่ดูเก๋มาก่อนอาหารอร่อย ถ้าร้านดูไม่สวย ไม่เท่ พวกเขาก็ไม่ค่อยอยากจะย่างกรายเข้าไปนัก เพราะมันไม่ถูกจริต แต่ถ้าเป็นร้านที่แต่งแนวเท่ๆ เป็นไม้ๆ หรือปูนเปลือย ใช้โต๊ะนักเรียนหรือจักรเย็บผ้าให้ลูกค้านั่ง เสิร์ฟอาหารมาในจานไม้ ค็อกเทลหน้าตาแปลกๆ ในขวดแยมเก่าที่นำมารีไซเคิล นี่ใช่เลย เราเชื่อว่าฮิปสเตอร์คงมีการกินข้าวไข่เจียว ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว มั่งแหละย่า แต่พวกเขาไม่อัพรูปตอนกินอะไรแบบนี้ให้เราเห็นหรอก เสียสถาบันฮิปสเตอร์หมดสิ!